สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ขึ้นอยู่กับยาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีบทบาทสำคัญจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวัน หากคุณบริโภคอาหารที่มีแป้งขัดสี, น้ำตาล และไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป ระดับน้ำตาลในเลือดอาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
บทความนี้ได้รวบรวม 11 กลุ่มอาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานควรจำกัด พร้อมคำอธิบายโดยละเอียดเพื่อช่วยให้คุณเลือกรับประทานได้อย่างถูกต้อง การผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการกับผลิตภัณฑ์เฉพาะทางอย่าง นมเบาหวาน จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับโรคได้อย่างดียิ่งขึ้น
- เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
น้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง (354 มล.) อาจมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 38 กรัม ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินและไขมันพอกตับได้ง่าย
- คำแนะนำ: ควรเลือกดื่มน้ำเปล่า, ชาไม่ใส่น้ำตาล หรือโซดาที่ไม่ใส่น้ำตาลแทน
- ไขมันทรานส์ (Trans fats)
เป็นไขมันที่มักพบในเนยเทียมและขนมอบจากโรงงาน แม้จะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นทันที แต่จะทำให้เกิดการอักเสบ, ลดคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- คำแนะนำ: อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า “hydrogenated”
- แป้งขัดสี (ข้าวขาว, เส้นก๋วยเตี๋ยว, ขนมปังขาว)
อาหารประเภทนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- คำแนะนำ: ควรเปลี่ยนมาบริโภคข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีท หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวจากธัญพืชเต็มเมล็ดเพื่อควบคุมโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น
- โยเกิร์ตรสผลไม้
โยเกิร์ตรสผลไม้หนึ่งถ้วย (245 กรัม) อาจมีน้ำตาลสูงถึง 47 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณคาร์โบไฮเดรตจำนวนมาก
- คำแนะนำ: ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่ใส่น้ำตาล และเพิ่มผลไม้สดที่มีรสหวานน้อยแทน
- ซีเรียลอาหารเช้าที่มีรสหวาน
กราโนล่าครึ่งถ้วยอาจมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 30 กรัม แต่มีโปรตีนน้อยมาก
- คำแนะนำ: ควรเลือกอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ต้ม หรือ นมเบาหวาน ชนิดไม่หวาน เพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
- กาแฟปรุงแต่งกลิ่น (มีน้ำเชื่อม)
กาแฟคาราเมลขนาดกลางหนึ่งแก้ว (16 ออนซ์) อาจมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 67 กรัม
- คำแนะนำ: ควรเลือกดื่มกาแฟดำ, เอสเพรสโซ หรือเติมนมเบาหวานเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลที่ไม่จำเป็น
- น้ำผึ้ง, น้ำเชื่อมอะกาเว, น้ำเชื่อมเมเปิ้ล
สิ่งเหล่านี้ก็คือน้ำตาลเช่นกัน และมีคาร์โบไฮเดรตสูง ตัวอย่างเช่น น้ำผึ้งหนึ่งช้อนมีคาร์โบไฮเดรต 17 กรัม และน้ำเชื่อมอะกาเวมี 16 กรัม
- คำแนะนำ: ควรบริโภคในปริมาณที่จำกัด หรือเปลี่ยนไปใช้สารให้ความหวานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวานแทน
- ผลไม้แห้ง
ลูกเกดหนึ่งถ้วยมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 115 กรัม ซึ่งมากกว่าองุ่นสดถึง 3 เท่า
- คำแนะนำ: ควรรับประทานผลไม้สดที่มีน้ำตาลน้อย เช่น สตรอว์เบอร์รี หรือแอปเปิ้ล
- ขนมขบเคี้ยวสำเร็จรูป
ขนมเหล่านี้มักทำจากแป้งขัดสี มีแคลอรี่สูง แต่มีสารอาหารน้อย
- คำแนะนำ: ควรเลือกถั่วเปลือกแข็ง, ผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ หรือชีส เป็นของว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
- น้ำผลไม้
ปริมาณน้ำตาลในน้ำผลไม้กล่องอาจสูงเทียบเท่ากับน้ำอัดลม
- คำแนะนำ: ควรดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำมะนาวไม่ใส่น้ำตาลเพื่อเพิ่มวิตามินแทน
- มันฝรั่งทอด
มันฝรั่งมีคาร์โบไฮเดรตสูง เมื่อนำไปทอดจะเกิดสารที่ทำให้เกิดการอักเสบและรบกวนการทำงานของอินซูลิน
คำแนะนำ: ลดการบริโภคอาหารทอดให้มากที่สุด โดยเฉพาะมันฝรั่งทอด เพื่อปกป้องสุขภาพหัวใจและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น